กลับเข้าสู่สัปดาห์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกอีกครั้งหลังต้องหลีกทางโปรแกรมทีมชาติ ซึ่งเข้าสู่นัดรองสุดท้ายแล้วน่าจะเห็นเค้าลางทีมที่จะผ่านเข้ารอบน๊อกเอาท์ 16 ทีม
แต่เราจะไม่พูดถึงว่าใครผ่านเข้าหรือตกรอบ ขอเน้นไปที่การพังประตูเป็นหลักโดยเฉพาะศูนย์หน้าที่คัดสรรมาระดับหัวกระทิทำผลงานยอดเยี่ยม 10 อันดับแรกดังต่อไปนี้
คาริม เบนเซม่า(เรอัล มาดริด)
ลงเล่น : 4 นัด
ประตู: 2
แอสซิสต์: 3

หากดูเฉพาะจำนวนประตูอาจมองว่าน่าผิดหวัง แต่พิจารณาโดยรวมศูนย์หน้าทีมชาติฝรั่งเศสยังทำผลงานอยู่ในระดับน่าพอใจ อย่างน้อยในแง่ของการทำประโยชน์เพื่อทีมที่มีมากขึ้นจนช่วย "ราชันชุดขาว" แทบไปยืนรอในรอบน๊อกเอาท์แล้ว
สำหรับสองประตูที่ทำได้นั้นมาจากเกมประเดิมสนามที่ไล่ถลุง กาลาตาซาราย 6-1 และเกมวันพุธนี้ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับ เบนเซม่า จะบวกสกอร์เพิ่มจากทีมเดียวกันนี่แหละ
คอนสตานตินอส มิโตรกลู(โอลิมเปียกอส)
ลงเล่น : 4 นัด
ประตู: 3
แอสซิสต์: 1

ชื่ออาจจะโนเนมไปสักนิดเมื่อเทียบกับคนอื่นๆแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับยอดดาวยิงวัย 25 ปีกระซวกทะลุถึง 17 ประตูซึ่งมากกว่าจำนวนนัดที่ลงสนาม 15 เกมจนตกเป็นข่าวว่า "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล,"ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส และ "หมาป่า" โรม่า ต่อแถวแย่งลายเซ็นกันจ้าละหวั่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวทียุโรปในเกมที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนจนทำให้ชื่อของ มิโตรลู โด่งดังคับฟ้ามาจากนัดที่รับเหมาแฮททริคบุกไปถล่ม อันเดอร์เลชท์ ถึงถิ่น 3-0 ดังนั้นวันพุธนี้ต้องออกไปเยือน ปารีส แซงต์ แชร์กแมงจึงน่าจับตาเป็นอย่างยิ่งเมื่อหอกกรีกจะขอท้าวัดความคมกับซูเปอร์สตาร์ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้(ดอร์ทมุนด์)
ลงเล่น : 4 นัด
ประตู: 3
แอสซิสต์: 1

ยังร้อนแรงอย่างต่อเนื่องสำหรับกองหน้าโปลิชซึ่งฤดูกาลที่แล้วนอกจากพา "เสือเหลือง" ทะลุเข้าชิงชนะเลิศอย่างพลิกความคาดหมายแล้วยังรั้งตำแหน่งรองดาวซัลโวอีกด้วยยิงทะลุ 10 ประตู ดังนั้นซีซั่นนี้จึงหมายมั้นคว้ารองเท้าทองคำให้ได้
อย่างไรก็ตามแม้ เลวานดอฟสกี้ ยิง 3 ประตูแต่ยังไม่เพียงพอเพราะ ดอร์ทมุนด์ รั้งรองบ๊วยกลุ่ม เอฟ ต้องลุ้น 2 นัดสุดท้ายโดยเฉพาะเกมวันอังคารนี้ถือเป็นนัดชี้เป็นชี้ตายต้องพยายามเอาชนะ นาโปลี ให้ได้สถานเดียว
กอนซาโล่ อิกวาอิน(นาโปลี)
ลงเล่น : 3 นัด
ประตู: 3
แอสซิสต์: 1

แม้ย้ายมาเล่นบนเวที กัลโช่ เซเรีย อาซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นลีกลูกหนังที่หินที่สุดในโลกเพียงแค่ฤดูกาลแรก แต่ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติอาร์เจนติน่าพิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นสุดยอดศูนย์หน้าโดยสัญชาติญาณ
น่าเสียดาย อิกวาอิน มีอาการบาดเจ็บรบกวนทำให้เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกขาดหายไปอยู่นัดนึง ไม่งั้นสถิติการพังประตูน่าจะเยอะกว่านี้ อย่างไรก็ตามเขามีโอกาสบวกเพิ่มขึ้นใน 2 นัดสุดท้าย
ดีเอโก้ คอสต้า(แอตเลติโก้ มาดริด)
ลงเล่น : 2 นัด
ประตู: 3
แอสซิสต์: 1

ดาวยิงเชื้อชาติบราซิเลี่ยนต้องชดใช้กรรมที่ก่อไว้ตั้งแต่ซีซั่นก่อนส่งผลกระทบมาถึงฤดูกาลนี้ติดโทษแบน 2 นัดแรก แต่พอกลับมา คอสต้า ทะลวงตาข่ายได้ทันทีย่อมเป็นการพิสูจน์ว่าเขาคือศูนย์หน้าที่ไม่เป็นสองรองใคร
เมื่อพิจารณาจากจำนวนนัดที่ลงสนามเพียง 2 เกมยิงไปแล้ว 3 ประตู คิดเป็นค่าเฉลี่ยแล้ว คอสต้า ยิง 1 ตุงทุกๆ 50 นาที ซึ่งมีเพียงแค่ 2 คนเท่านั้นบนเวทีแชมเปี้ยนส์ ลีกที่ทำได้เหนือกว่า
อัลบาโร่ เนเกรโด(แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ลงเล่น : 4 นัด
ประตู: 4
แอสซิสต์: 1

ซิตี้ สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบน๊อกเอาท์ในแชมเปี้ยนส์ ลีกได้เป็นครั้งแรก ส่วนนึงต้องยกความดีความชอบให้ดาวยิงจากแดนกระทิงดุมีส่วนร่วมในความสำเร็จทั้งๆที่เพิ่งย้ายมาล่าตาข่ายในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยมยังไม่ถึงครึ่งปีเลยด้วยซ้ำ
ส่วนจำนวนประตูที่ทำได้มาจากรับเหมาแฮททริคในนัดถล่ม ซีเอสเคเอ มอสโก และส่งบอสสู่ก้นตาข่ายทีมบาเยิร์น มิวนิคซึ่งมีเกมรับเหนียวแน่นที่สุดในยุโรปจึงย่อมถือว่า เนเกรโด คือศูนย์หน้าที่ใครๆจะประมาทไม่ได้
เซร์คิโอ อเกวโร่(แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ลงเล่น : 4 นัด
ประตู: 5
แอสซิสต์: 2

หอกทีมชาติอาร์เจนติน่าเรียกวิญญาณเพชฌฆาตกลับคืนร่างได้อีกครั้งในฤดูกาลนี้จนได้รับความไว้วางใจจากกุนซือ มานูเอล เปเญกรินี่ ยกให้เป็นศูนย์หน้าหมายเลข 1 ไปแล้ว
ผลจากการที่ ซิตี้ ทะลุเข้าสู่รอบ 16 ทีมทั้งๆที่ยังแข่งไม่จบเลยส่วนนึงต้องยกเครดิตให้ อเกวโร่ ที่ยังคงมุ่งมั่นไล่ล่าตาข่ายเพิ่มโดยเฉพาะเกมวันอังคารนี้เปิดบ้านรอรับการมาเยือนของเหยื่ออันโอชะ เพิลเซ่น ทีมบ๊วยของตาราง
ลิโอเนล เมสซี่(บาร์เซโลน่า)
ลงเล่น : 3 นัด
ประตู: 6
แอสซิสต์: 0

ไมมีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้วสำหรับอัจฉริยะลูกหนังคนนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิจารณาจำนวน 6 ตุงจาก 3 นัด เมสซี่ กลายเป็นเจ้าของสถิติค่าเฉลี่ยดีที่สุดเหนือทุกกองหน้าในรายการนี้เมื่อหารออกมายิง 1 ประตูทุกๆ 45 นาที
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่เจ้าของบัลลง ดอร์ 4 สมัยจะไม่มีโอกาสบวกเพิ่มอีกแล้ว หลังมีอาการบาดเจ็บพักยาวทำให้หมดสิทธิ์ลงเล่นใน 2 เกมที่เหลือ กว่าจะกลับมาล่าตาข่ายต้องรออีกทีในปีหน้า
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช(ปารีส แซงต์ แชร์กแมง)
ลงเล่น : 4 นัด
ประตู: 7
แอสซิสต์: 0

ศูนย์หน้ามหากาฬเลือดไวกิ้งโดดเด่นหลายปีดีดักจนได้รับการยกย่องให้เป็นสตาร์ระดับโลกแต่นับเฉพาะบนเวทีแชมเปี้ยนส์ ลีกถือว่าเขาเล่นได้ท็อปฟอร์มที่สุดมากกว่าทุกฤดูกาลที่ผ่านมา
7 ประตูที่ อิบราฮิโมวิช สังหารไปนั้นยังมีสถิติน่าสนใจก็คือรับเหมายิงคนเดียว 4 ตุงในนัดเดียวจากเกมบุกถล่ม อันเดอร์เลชท์ 5-0 กลายเป็นแข้งประวัติศาสตร์รายที่ 8 ต่อจาก มาร์โก ฟาน บาสเท่น,ดาโด้ แปร์โซ่,ซิเมโอเน่ อินซากี้,รุด ฟาน นิสเตลรอย,อังเดร เชฟเชนโก้,บาเฟติมบี้ โกมิส และ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ทำได้ในแชมเปี้ยนส์ ลีก
คริสติอาโน่ โรนัลโด้(เรอัล มาดริด)
ลงเล่น : 4 นัด
ประตู: 8
แอสซิสต์: 2

บนโลกใบนี้ไม่มีใครโดดเด่นและยิงประตูได้มากไปกว่าจอมสับสตาร์พันล้านคนนี้อีกแล้วด้วยสถิติที่เหลือเชื่อ 25 ตุงใน 18 นัดรวมทุกรายการจนถูกยกให้เป็นตัวเก็งคว้าบัลลง ดอร์สมัยที่ 2
เฉพาะแชมเปี้ยนส์ ลีก โรนัลโด้ สร้างปรากฎการณ์ด้วยการสังหาร 8 ประตูใน 4 นัดคิดเป็นค่าเฉลี่ยน่าทึ่งยิงเกมละ 2 ตุงพร้อมนำเป็นดาวซัลโวสูงสุด ยิ่ง เมสซี่ ต้องพักยาวจนถึงปีหน้าน่าจะเป็นแรงกระตุ้นซุปตาร์ฝอยทองเดินหน้าถล่มตาข่ายอย่างต่อเนื่อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น