สดชื่นแบบยาย่า!ยิงเบิ้ลเรือบุกน็อคมวยโลก 3-2 รั้งที่ 3 ต่อ

การได้แว็งซ็องต์ กอมปานีกลับมาส่งผลชัดเจนเพราะทำให้แนวรับ"เรือใบสีฟ้า"แน่นขึ้นมากก่อนได้ประตูจากเซอร์จิโอ อเกวโร่และอีกสองจากยาย่า ตูเร่ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้บุกล้มเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 3-2 ชนะ 3 นัดรวดรั้งอันดับ 3 ต่อไป

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

สนาม : เดอะ ฮอว์ธอร์นส์

วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน 2556

เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2:3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ประตู : 0-1 อเกวโร่ น.8, 0-2 ตูเร่ น.24, 0-3 ตูเร่ น.74, 1-3 ปันติลิม่อน(OG) น.85, 2-3 อนิเชเบ้ น.90+4

คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก เวสต์บรอมวิช 2-3 แมนซิตี้

ศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษกลางสัปดาห์ที่สนามเดอะ ฮอว์ธอร์นส์ เจ้าบ้านเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนเล่นไปเล่นมากลายเป็นทีมจอมเสมอ อันดับเลยคาอยู่กลางตาราง นัดนี้กุนซือสตีฟ คลาร์กขาดยุสซูฟ มูลุมบูติดโทษแบน เลยตัดสินใจแลกหมัดส่งไซโด้ เบราฮิโน่ยืนหน้าคู่เชน ลองซะเลย ฝั่งทีมเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้รั้งอันดับ 3 ในขณะนี้แต่เกมนอกบ้านยังเป็นเครื่องหมายคำถาม นัดนี้ได้แว็งซ็องต์ กอมปานี กัปตันเรือตัวจริงฟิตกลับมาคุมแนวรับอีกครั้ง แนวรุกยังเป็นจุดเด่นนำโดยดาวซัลโวสูงสุดของทีมอย่างเซอร์จิโอ อเกวโร่เช่นเคย ผู้ตัดสินได้แก่คริส ฟอย เกมนี้เริ่มช้ากว่าปกติ 15 นาทีเนื่องจากปัญหาจราจร

ครึ่งแรก 

ทักทายโหด..กุนเกือบยิงนำ

เริ่มเกมได้ 6 นาทีซิตี้เกือบบุกนำจากจังหวะต่อเกมสวยๆ ปาโบล ซาบาเลต้าลากขึ้นมาทางขวาตบกลับให้ยาย่า ตูเร่ตักเข้าเขตโทษ เอดิน เชโก้พักอกชิ่งให้เซอร์จิโอ อเกวโร่หวดตูมเดียวเฉียดเสาสองออกไป ฟุตบอลสวยงามของเปเญกรินี่ส่งสัญญาณเตือนเวสต์บรอมฯแล้ว

เตือนแล้วไม่ฟัง!เรือต่อเกมสวยกุนจบเฉียดขาด 0-1

ฟุตบอลของเปเญกรินี่ทำงานจริงๆในนาที 8 ยาย่า ตูเร่จ่ายให้เฆซุส นาบาสทิ่มเข้าเขตโทษให้เอดิน เชโก้พักแล้วป้ายออกขวา ปาโบล ซาบาเลต้าเติมขึ้นมาเปิดเร็วหักเข้ากลาง เซอร์จิโอ อเกวโร่วิ่งมายิงเสยเพดานตุงตาข่ายอย่างเฉียบขาดคลาสสิค เรือบุกนำอย่างรวดเร็ว 

มวยโลกเน้นยิงไกล

แนวรับเรือเจาะยากขึ้นหลังได้กัปตันกอมปานีกลับมาทำให้เวสต์บรอมฯหันมาส่องนอกกรอบเป็นหลัก นาที 13 มอร์กก็อง อมัลฟิตาโน่หุบเข้ากลางรับบอลก่อนลากหลบผู้เล่นซิตี้ 2 คนแล้วซัดด้วยขวาแต่หักข้อเกินไปบอลออกข้างเยอะ อีกจังหวะนาที 15 เจ้าบ้านเคาะบอลกลับไปกลับมาอยู่นาน สุดท้ายเคลาดิโอ ยาค็อบทิ่มให้ไซโด้ เบราฮิโน่ลักไก่ซัดไกลด้วยขวา บอลพุ่งออกข้างมุมเดิมแต่ใกล้เคียงกว่า ส่งสัญญาณเตือนทีมเยือนเล็กๆเหมือนกัน

เรือก็มีแท็คติค..ให้เชโก้พักบอล

เหมือนซ้อมเกมรุกชอบกลสำหรับซิตี้เพราะเน้นให้หัวหอกบอสเนียเล่นโพสต์เพลย์บ่อยเหลือเกิน นาที 21 เป็นอีกครั้งหลังรับบอลจากแดนกลางหน้าเขตโทษก่อนป้ายเข้ากลางให้กุนวิ่งมาสับด้วยขวาเฉียดเสาออกไป

ฉลองกัปตันคัมแบ็ค!เรือต่อเกมสวยอีกคราวนี้ยาย่าจบ 0-2

ฟุตบอลของดิ เอ็นจิเนียร์ทำงานดีจริงๆและได้ประตูนำห่างในนาที 24 ซามีร์ นาสรี่รับบอลจากเพื่อนก่อนจ่ายหลุดฝั่งซ้ายให้อเล็กซานดาร์ โคลารอฟตะบึงขึ้นมาตบเข้าเขตโทษ ยาย่า ตูเร่วิ่งมาแปหนีมือโบซ มายฮิลล์เข้าเสาไกลอย่างคลาสสิคอีกครั้ง เรือนำห่างแล้ว

ไม่พอ..กุนเกือบเบิ้ล

นาที 33 ซิตี้น่านำขาด บอลยาวจากแนวรับ อเกวโร่ลงมาล้วงเองก่อนกระดกจังหวะเดียวข้ามหัวโยนัส โอลส์สันอย่างเหนือชั้นแล้วตามไปเอาบอลก่อนกระชากพรวดเดียวเข้าเขตโทษแล้วยิงเรียดด้วยขวากะเสียบเสาสองแบบคมๆแต่มายฮิลล์อ่านออกปัดปลายมือออกข้างไป 

กำแพงเหล็ก..กอมปานีบล็อกลูกยิงไซโด้อย่างเทพ

มีกับไม่มีต่างกันมากจริงๆสำหรับกอมปานี นาที 39 เวสต์บรอมฯน่าได้ลุ้นเสียวกว่านี้ อมัลฟิตาโน่โยกหลบโคลารอฟจนหงายตึงก่อนแปะเข้ากลางให้เบราฮิโน่ลากเข้าในอีกกะหลบให้พ้นกัปตันเรือแต่จังหวะยิงเต็มข้อถูกเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเบลเยี่ยมสไลด์ตัวบล็อคได้อย่างยอดเยี่ยม

จบครึ่งแรกแมนฯซิตี้นำสบาย 2-0 ด้วยรูปเกมที่เหนือกว่าเยอะฟ้องด้วยสถิติครองบอล 60%-40% ส่วนเวสต์บรอมวิชคงต้องเน้นเกมรุกให้หลากหลายและคมกว่านี้หากหวังจะเจาะแนวรับเรือที่แน่นขึ้นมากหลังได้แว็งซ็องต์ กอมปานีกลับมาบัญชาการ

ครึ่งหลัง

กุนจะเอาให้ได้

นาที 49 กุนเกือบทำประตูที่สองให้ตัวเองได้ จังหวะโต้กลับจากการตัดบอลของแฟร์นันดินโญ่ให้เพื่อนจ่ายต่อเร็วเข้าเท้าหัวหอกอาร์เจนไตน์ลากจี้เข้าเขตโทษ ชะลอเหมือนจะเปิดบอลแล้วสับไกดื้อๆแต่บอลเหินข้ามคานไป

ลองพุ่งไม่เวิร์คเลย

นาที 50 เวสต์บรอมฯเกือบได้จุดโทษ เชน ลองที่วันนี้เงียบกริบรับบอลจากเพื่อนก่อนลากเข้าเขตโทษล็อกหลบกอมปานีจนได้ช่องจะยิงแล้วแต่มีโคลารอฟตามมาขวางลองไว้จนล้มลงไป หัวหอกไอริชฟ้องจะเอาจุดโทษแต่กรรมการคริส ฟอยไม่ให้ จากภาพช้าเห็นชัดว่าหัวหอกนามสกุลยาวพยายามล้มเอาจุดโทษมากเกินไปจริงๆ

ครึ่งหลังมันคืออัลไลยยยยย์

ตรงข้ามกับครึ่งแรกที่มีโอกาสยิงประตูกันเยอะอย่างสิ้นเชิง ซิตี้เพลาเครื่องและหันมาเน้นการครองบอล ฝั่งเวสต์บรอมฯพยายามไล่แต่ก็ไม่จน สตีฟ คลาร์กเลยทนไม่ไหวเปลี่ยน 2 คนรวดให้วิคเตอร์ อนิเชเบ้กับโซลตัน เกร่าลงสนามแทนเชน ลองกับเจมส์ มอร์ริสัน

ฟินนน!ยาย่าสังหารโทษชิวๆ 0-3

ซิตี้ได้จุดโทษในนาที 74 จากจังหวะที่เคลาดิโอ ยาค็อบเสี่ยเหลี่ยมกะตัดจังหวะอเล็กซานดาร์ โคลารอฟที่กระชากเข้าเขตโทษแต่แบ็คเท้าหนักแตะบอลขึ้นหน้านิดนึงกลายเป็นโดนยาค็อบเกี่ยวขาล้มลงไป คริส ฟอยชี้ไปที่จุดโทษทันที ยาย่า ตูเร่สังหารเข้ากลางประตูนิ่มๆให้ทีมเยือนนำขาด น่าจะชนะค่อนข้างแน่แล้ว 

กัปตันกำแพงเหล็ก

กอมปานีโชว์ให้เห็นอีกครั้งว่าเขาสำคัญต่อซิตี้เพียงใด นาที 81 เวสต์บรอมฯได้ลุ้นเล็กๆ จังหวะขลุกขลิกกันหน้าเขตโทษ มาเต็จ ไวดร้าตัวสำรองฉกบอลออกมาได้แล้วดีดต่อให้เบราฮิโน่ลากเข้าเขตโทษแล้วปั่นด้วยขวาแต่ติดหลังกอมปานีข้ามคานไป 

เอิ่มมม!ปันติลิม่อนOGมวยโลกตีไข่แตกแบบงงๆ 1-3

สงสัยโจ ฮาร์ทแอบแช่งจนได้เรื่อง นาที 85 เวสต์บรอมฯได้ประตูปลอบใจ ไวดร้ารับบอลจากเพื่อนทางซ้ายก่อนทำชิ่งกับเบราฮิโน่เข้าเขตโทษอย่างสวยแล้วตบเข้ากลาง บอลผ่านมือปันติลิม่อนมาโดนเท้าโคลารอฟเด้งกลับมาโดนตัวปันติลิม่อนเข้าประตูซะงั้น

แอบเสียว!อนิเชเบ้ยิงให้มวยโลกทดเจ็บไล่เป็น 2-3

เวสต์บรอมฯมาได้ประตูชวนเสียวในนาที 90+4 จากการประสานงานของสองตัวสำรอง วิคเตอร์ อนิเชเบ้ รับบอลจากไวดร้าก่อนไถชนะเดมิเคลิสแล้วยิงด้วยขวาเต็มๆผ่านปันติลิม่อนเข้าไปอย่างเด็ดขาด น่าเสียดายที่ไม่ทันการแล้ว

จบเกมเป็นอันว่าแมนฯซิตี้บุกชนะเวสต์บรอมวิช 3-2 เก็บชัย 3 นัดติดรักษาอันดับ 3 เอาไว้ได้ ส่วนเวสต์บรอมอันดับร่วงลงไปอีกหนึ่งขั้น สถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดีแล้ว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน( 4-4-2 ) : โบซ มายฮิลล์ 5 - สตีเฟ่น รีด 5, แกเร็ธ แม็คออลีย์ 5, โยนัส โอลส์สัน 3, เลียม ริดจ์เวลล์ 4 - เจมส์ มอร์ริสัน 6( โซลตัน เกร่า 5 น.64 ), เคลาดิโอ ยาค็อบ 6, คริส บรันท์ 5, มอร์กก็อง อมัลฟิตาโน่ 5( มาเต็จ ไวดร้า 6 น.76 ) - เชน ลอง 4( วิคเตอร์ อนิเชเบ้ 6 น.64 ), ไซโด้ เบราฮิโน่ 6

สำรองไม่ได้ลงสนาม : ลุค ดาเนียลส์, ดีเอโก้ ลูกาโน่, โกรัน โปปอฟ, สเตฟาน แซสเซอญง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้( 4-4-2 ) : คอสเตล ปันติลิม่อน 5 - ปาโบล ซาบาเลต้า 6, มาร์ติน เดมิเคลิส 5, แว็งซ็องต์ กอมปานี 5, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ 5 - เฆซุส นาบาส 3, แฟร์นันดินโญ่ 6, *ยาย่า ตูเร่ 8( แจ็ค ร็อดเวลล์ - น.88 ), ซามีร์ นาสรี่ 6( ฆาบี การ์เซีย - น.77 ) - เอดิน เชโก้ 7, เซอร์จิโอ อเกวโร่ 6( เจมส์ มิลเนอร์ 5 น.69 )

สำรองไม่ได้ลงสนาม : โจ ฮาร์ท, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, โจลีออน เลสค็อตต์, อัลบาโร่ เนเกรโด้

ที่มา : http://www.soccersuck.com/boards/topic/955479